นอกจากการออกแบบวางแผนใน การรักษาบ้าน ให้แข็งแรง เพื่อทนต่อสภาพอากาศ ที่จะใช้งานให้บ้านนั้นอยู่ไปได้อย่างยาวนาน ยังมีอีกหลายวิธีที่เจ้าของบ้าน หรือผู้พักอาศัยสามารถลงมือทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้บ้านคงสภาพ และสามารถใช้การได้อย่างยาวนาน โดยวิธีต่อไปนี้ ถือเป็นวิธีที่ท่านสามารถนำไปใช้ได้นชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งควรหมั่นทำเป็นประจำ ซึ่งโดยเบื้องต้นแล้วสิ่งที่ควรทำอย่างเช่น พื้นกระเบื้องไม่ควรปล่อยให้มีน้ำขัง,ดูแลสวน และต้นไม้ไม่ให้รก,หมั่นเช็คสภาพปลั๊ก ระบบไฟฟ้า และสายไฟว่ามีรอยชำรุด หรือเสียหายหรือไม่ เป็นต้น
วิธี การรักษาบ้าน ให้คงทนถาวร
ตรวจสอบการรั่วซึมของหลังคาบ้าน
หลังคานับเป็นส่วนที่สำคัญของตัวบ้านที่เราควรหมั่นตรวจสอบ และดูแลรักษาอยู่เสมอ เพราะนอกจากจะเป็นส่วนที่มีผลต่อความสวยงามของตัวบ้านแล้ว หากหลังคามีรอยรั่วซึมก็จะส่งผลเสียต่อคนในบ้านได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น น้ำรั่วซึมขังบนพื้น ทำให้พื้นลื่น จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือมีน้ำรั่วซึมโดนอุปกรณ์ไฟฟ้า ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหาย หรืออาจร้ายแรงจนทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ เป็นต้น
หมั่นทำความสะอาดปัดกวาดเช็ดถูบ้านอยู่เสมอ
เราควรหมั่นปัดกวาดเช็ดถูบ้านของเราเป็นประจะทุกวัน เพื่อป้องกันฝุ่นและเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุทำให้โรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็กควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ส่วนของใช้อื่นๆเช่น ที่นอน ปลอกหมอน หรือพื้นพรม อาจมีกำหนดระยะเวลาในการทำความสะอาดเป็น 1 อาทิตย์/1 ครั้ง โดยการเอาไปซักและตากแดด เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย
พื้นกระเบื้องไม่ควรปล่อยให้มีน้ำขัง
หากบนพื้นกระเบื้องมีน้ำขังอยู่นั้น อาจทำให้มีตะไคร่น้ำ และเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้ ซึ่งห้องที่ควรให้ความใส่ใจพื้นกระเบื้องมากเป็นพิเศษ คือห้องซักล้าง และห้องครัว เนื่องจากเป็นห้องที่ต้องใช้งานที่เกี่ยวข้องกับน้ำอยู่บ่อยๆ และอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ไม่ควรทิ้งขยะลงไปในท่อ เพราะจะทำให้อุดตันได้
การทิ้งขยะลงในท่อน้ำ นอกจากจะทำให้ท่ออุดตัน จนไม่สามารถระบายน้ำได้แล้ว ยังทำให้ท่อน้ำส่งกลิ่นเหม็น ทำให้ต้องเสียเวลา และค่าใช้จ่ายในการดูแลซ่อมแซม
ดูแลสวน และต้นไม้ไม่ให้รก
สวนหน้าบ้านช่วยให้บ้านของเราดูร่มรื่น และเย็นสบาย แต่หากเราไม่ตัดแต่งหรือดูแลสวนอยู่เสมอ ก็จะทำให้สวนของเราดูไม่เป็นระเบียบ มีหญ้าขึ้นรก ทำลายทัศนียภาพ และที่สำคัญหากปล่อยทิ้งไว้ อาจกลายเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์มีพิษจำพวก งู หรือตะขาบ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายแก่คนในบ้านได้
บ้านที่มีถังบำบัดสำเร็จรูปใต้ดินควรสูบตะกอนทุก 2 ปี
ถังบำบัดสำเร็จรูปใต้ดินควรทำการสูบตะกอนทุก 2 ปี เพื่อให้สามารถใช้งานถังบำบัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และควรมีการเติมผงจุลลินทรีย์ผสมน้ำลงในถังทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แบคทีเรียในถังเกิดการย่อยสลาย
หมั่นเช็คสภาพระบบไฟฟ้า ปลั๊ก สายไฟ ว่ามีรอยชำรุดเสียหายหรือไม่
ระบบไฟฟ้าในบ้าน เป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เพราะหากเกิดความชำรุด หรืออยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมใช้งานแล้วนั้น อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่คนในบ้านได้ โดยเราควรตรวจสอบทั้งหลอดไฟ ปลั๊กไฟ หรือสายไฟต่างๆ เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือการเกิดเพลิงไหม้
มีระบบการป้องกันบ้านจากปลวก
หากบ้านของเรามีวัสดุ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ ควรมีการฉีดยาเพื่อกำจัดปลวกทุกๆ 4 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้ปลวกแทะ หรือทำลายข้าวของ
หมั่นทำความสะอาดห้องน้ำอยู่เป็นประจำ
ห้องน้ำเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ง่าย ดังนั้นเราควรทำความสะอาดห้องน้ำอยู่เสมอ โดยส่วนที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือบริเวณฝักบัวอาบน้ำ โถสุขภัณฑ์ และอ่างล้างหน้า
หมั่นดูแลสี ความเสียหายของบ้านเพื่อซ่อมแซมปรับปรุงอยู่เสมอ
เราควรตรวจสอบผนังบ้านอยู่เสมอ ว่ามีตรงส่วนไหนเกิดสีหลุดร่อน มีรอยรั่วซึม หรือแตกร้าว เพื่อดำเนินการซ่อมแซมแก้ไข ทั้งนี้เพื่อความสวยงามของตัวบ้าน และสุขภาพอนามัยของสมาชิกในครอบครัว โดยควรเคลือบสารเพื่อป้องกันปลวกร่วมด้วย
บ้านที่มีถังสำรองน้ำกักเก็บน้ำไว้ใช้ควรตรวจสอบรอยรั่วซึมของน้ำ
ควรมีการตรวจสอบสภาพความพร้อมใช้งานของถังสำรองน้ำอยู่เสมอ ว่ามีรอบรั่วซึมรอบตัวถังหรือไม่ ควรทำความสะอาดตะไคร่น้ำข้างถังเป็นประจำทุกปี รวมไปถึงหมั่นตรวจเช็คมอเตอร์ปั๊มน้ำอยู่เสมอ
ตรวจสอบพื้นคอนกรีต เช่นพื้นโรงรถ พื้นลานซักล้าง พื้นทางเท้า
โดยปกติแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปพื้นดินอาจมีการทรุดตัวทีละน้อย ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยร้าวหรือรอยแตกเล็กๆในบริเวณพื้นบ้านได้ ซึ่งเราควรตรวจสอบรอบร้าวเหล่านี้อยู่เสมอ หากพบก็ควรรีบดำเนินการซ่อมแซมทันที
เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านที่มีคุณภาพ
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีคุณภาพนั้น สามารถช่วยลดระยะเวลาในการทำความสะอาด ได้ผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัยแก่ผู้ใช้งาน ดังนั้นเราควรให้ความสำคัญกับการเลือกซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ เช่น อุปกรณ์ทำความสะอาด น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ หรือน้ำยาเช็ดกระจก เป็นต้น