วัสดุที่นำมาใช้ทำประตูนั้นมีหลากหลายประเภท แต่วัสดุที่นิยมมากที่สุดและใช้กันมายาวนาน  “ไม้” ถึงแม้ว่าอาจจะเป็นวัสดุที่ผุพังง่ายกว่าวัสดุชนิดอื่นก็ตาม  บ้านที่ใช้ ประตูไม้ และ หน้าต่างไม้ มักต้องระมัดระวังและดูแลเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับวัสดุอื่นๆ  โดยบานประตูไม้อัด หรือไม้จริงที่ทำสี  เราคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า เมื่อผ่านการใช้งานมายาวนานสีอาจซีดจาง หรือผิวที่เคลือบไว้หลุดร่อน เราสามารถซ่อมแซมบานประตูให้กลับมาสดใสได้อีกครั้ง ด้วยขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากเกินไป ทำให้เจ้าของบ้านสามารถซ่อมแซมได้ด้วยตนเอง เพื่อประหยัดงบประมาณในการจ้างซ่อม

ประตูไม้

ขั้นตอนเบื้องต้นของการซ่อมบาน ประตูไม้

  • ดูจุดบกพร่อง หาจุดที่ต้องการซ่อมแซม เพื่อตรวจดู หาร่องรอยที่มีรอยผุพัง และแตกร้าว อาจถอดประตูทั้งบานเพื่อทำการตรวจสอบให้แน่ชัด
  •  ทำความสะอาด เพื่อขจัดครอบฝุ่นหรือสิ่งสกปรกออกก่อน  โดยการนำผ้าชุดน้ำบิดหมาดๆมาเช็ด เสร็จแล้วทิ้งไว้ให้แห้งแล้วตามด้วยการใช้กระดาษทรายหยาบ หรือแปรงขัดลวดทองเหลือง มาขัดบริเวณที่มีรอยแตกร้าว หรือบนตำแหน่งที่มีความผิดปกติ
  • นำไม้มาวัดตัดแต่งให้พอเหมาะกับช่องว่างที่ขาดหายไป หรือเติมวัสดุอื่นลงในไม้ที่ผุผังไม่มาก ทั้งนี้ก่อนจะเสริมลงไปควรตรวจเช็คให้แน่เสียก่อนว่า ไม้ชิ้นนั้นไม่มีความชื้น หรือเชื้อราปะปนอยู่
  •  หลังจากตัดแต่งจนได้ชิ้นไม้ที่พอดีแล้ว ใช้กาวติดไม่ทาลงไปบนชิ้นไม้ และส่วนที่ชำรุดบนหน้าต่างด้วย จากนั้นนำชิ้นไม้ประกบลงไปในช่องว่าง และกดเอาไว้จนกว่ากาวจะแห้งสนิท ในขั้นตอนนี้อาจจะใช้เวลานานสักหน่อย ดังนั้นเปลี่ยนมาใช้ปากกาจับชิ้นงานช่วยยึดไม้ทั้งสองอันเข้าด้วยกัน จะทำให้สะดวกกว่า
  • เมื่อกาวแห้งสนิทแล้วใช้กระดาษทรายขัดพื้นผิวอีกหนึ่งรอบให้ราบเรียบเสมอเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมด
  • เมื่อเสร็จทุกขั้นตอนแล้วนำสีมาทับลงไป จากนั้นเคลือบเงาด้วยน้ำยาเคลือบผิวไม้ รอให้แห้งสีและน้ำยาแห้งสนิท ก่อนที่จะนำหน้าต่างกลับไปติดตั้งใหม่อีกครั้ง ก็เป็นอันเรียบร้อย

ประตูไม้

 ขั้นตอนการซ่อมแซมสีบานประตูไม้

  • ถอดบานประตูออกจากวงกบ โดยใช้สว่านไขสกรูที่ยึดบานพับกับบานประตูออก ควรเริ่มจากบานพับที่อยู่ตรงกลาง และควรมีผู้ช่วยพยุงบานประตูไม่ให้ล้มระหว่างทำงาน
  • สำหรับบานประตูไม้ทำสีธรรมชาติที่เน้นโชว์ลายไม้ ให้ใช้กระดาษทรายขัดตัวเคลือบไม้เดิมออก ถ้าเป็นประตูไม้เนื้ออ่อน ควรเลือกกระดาษทรายประมาณเบอร์ 2-3 เพราะตัวเคลือบมักไม่ค่อยหนา และเพื่อไม่ให้เกิดริ้วรอยที่ผิวไม้มาก (ถ้ามีเครื่องขัดกระดาษทราย จะช่วยทุ่นแรงได้ดี) หากไม้มีร่องรอยคราบราดำ ให้ขัดออกให้หมด
  • ลองตรวจดูให้ละเอียดว่าบานประตูมีรอยแตกร้าวหรือไม่ ถ้ามี ให้นำดินสอพองมาผสมกับน้ำ ไม่ให้ข้นหรือใสเกินไป แล้วนำมาโป๊วอุดรอยแตก ทิ้งให้แห้ง
  • ใช้กระดาษทรายเบอร์ 0 (ละเอียดที่สุด) ค่อยๆ ขัดเนื้อดินสอพองส่วนเกินออกไป
  • ทำความสะอาดผิวไม้จนหมดฝุ่นผง ทิ้งให้แห้งสนิท
  • ที่บานประตูจะมีลูกบิด มือจับ หรือกลอน ควรติดด้วยเทปกาว เพื่อปกป้องผิวของอุปกรณ์เหล่านี้ ก่อนลงมือทาน้ำยารักษาเนื้อไม้หรือสีทาทับหน้า จากนั้นทาน้ำยารักษาเนื้อไม้ให้ทั่วทุกด้าน จำนวน 2 เที่ยว ทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เดี๋ยวนี้น้ำยารักษาเนื้อไม้ส่วนมากมีคุณสมบัติป้องกันเชื้อราอยู่ในตัว แต่หากผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกใช้ ไม่มีคุณสมบัติที่ว่า ควรทาน้ำยาป้องกันเชื้อรา (Micro Kill) ร่วมด้วย
  • จากนั้นทาทับด้วยสีย้อมไม้ จำนวน 2 เที่ยว ทิ้งให้แห้ง ดึงเทปกาวออก แล้วติดตั้งประตูเข้ากับวงกบดังเดิม

ปัจจุบันนั้น ประตูทั่วๆไปนั้น ไม่ว่าจะเป็นประตูไม้ หรือ ประตูเหล็ก หรือ ประตูกระจกต่าง ๆ ก็สามารถนำมาทำเป็น ประตูอัตโนมัติ ได้เลย ซึ่งการทำเป็นประตูอัตโนมัตินั้น จะทำให้การใช้งานประตูง่ายขึ้น และ ทำให้บ้านดูทันสมัยมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังมีความปลอดภัยในการเปิดปิดมากขึ้นอีกด้วย