ต้องยอมรับเลยว่า ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยของชาวไทย การสร้างบ้านหลังหนึ่งขึ้นมานั้น นอกจากจะมีการเลือกใช้วัสดุที่ถูกต้อง หรือมีการออแบบให้สวยงานแล้ว การสร้างตามหลักฮวงจุ้ย จึงมาพร้อมๆกัน เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้สบายใจ ซึ่งพื้นที่แต่ละอย่างในบ้าน จะมีหลักหรือเทคนิคของฮวงจุ้ยที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งปราการด่านแรกของบ้านที่ทุกคนต้องเจอคือ รั้วบ้าน โดยเราจะมาดูกันว่า รั้วบ้านที่สร้างตามหลักฮวงจุ้ยนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งข้อมูลต่อไปนี้ถือได้ว่า เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่นอกจากจะทำให้ทราบถึงฮวงจุ้ยที่ถูกต้องแล้ว ยังทำให้รั้วบ้านนั้นจะดูสวยงาม ดูดีขึ้น

เทคนิคเบื้องต้นของการสร้างรั้วบ้าน

ก่อนจะสร้างรั้วบ้านนั้น ไม่ว่าเราจะชอบแบบไหน หรือมีแบบถือต้องการอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไร เราควรมีเทคนิค เพื่อวางแผนในการสร้างให้ออกมาดูดีมากยิ่งขึ้น  อย่างแรกเราควรดูสไตล์ของบ้าน ที่เป็นสิ่งสำคัญของการเลือกแบบรั้วบ้าน คือควรเลือกให้เข้ากับสไตล์ของบ้าน  และลักษณะของพื้นที่  ต่อไปบริเวณบ้าน เรื่องพื้นที่รอบบ้านก็เป็นอีกเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ เพราะถ้าหากเลือกรั้วบ้านโดยไม่คำนึงถึงระยะห่างของพื้นที่ และความสมดุลกับตัวบ้านแล้ว อาจทำให้อึดอัดหรือดูโล่งมากเกินไป โดยขนาดรั้วบ้านปกติจะสูงประมาณ 1.2 เมตร – 2 เมตร  ในส่วนประกอบอื่น ๆ  นอกจากประตูบ้านแล้ว รั้วบ้านส่วนที่เป็นกำแพง อาจจะต้องเลือกวัสดุที่เหมาะสมเช่นกัน อาจจะสร้างรั้วกำแพงอิฐล้วน ๆ แล้วทาสีสันให้สวยงาม หรือจะผสมผสานระหว่างอิฐกับไม้ หรืออะลูมิเนียมก็ได้ เพื่อเพิ่มช่องว่างให้รั้วบ้านดูไม่ทึบอึดอัดจนเกินไป

การสร้างรั้วบ้านฮวงจุ้ย

การสร้างรั้วบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

ห้ามสร้างรั้วบ้านก่อนสร้างบ้าน

  •  ข้อห้ามนี้คงเคยได้ยินกันมาบ้าง ในตำราให้เหตุผลเอาไว้ว่าเหมือนสร้างคุกรอคนเข้าไปอยู่ เพราะกำแพงล้อมทั้งสี่ด้านก็ไม่ต่างไปจากคุกนั่นเองหลักการสร้างบ้านจะต้องสร้างจากด้านในขยายไปสู่ด้านนอกจึงจะถือว่าถูกต้องรั้วจึงเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่จะสร้าง

รั้วโปร่งดีกว่าทึบ

  • การสร้างรั้วโปร่งจะให้ความรู้สึกสบายไม่อึดอัดกับผู้อยู่อาศัยในบ้าน การไหลเวียนของลมที่พัดเข้าสู่บ้านก็จะได้ประโยชน์เต็มที่ แต่ถ้าเป็นกรณีของบริษัท โรงงาน โกดังเก็บของอาจจำเป็นจะต้องสร้างรั้วทึบเพื่อป้องกันโจรขโมยเพราะฉะนั้น การสร้างรั้วจึงต้องดูที่ความจำเป็นและประโยชน์ใช้สอยด้วย

ห้ามสร้างรั้วสูงหรือต่ำเกินไป

  • การสร้างกำแพงรั้วสูงจะปิดบังลมที่พัดเข้าบ้านและผู้อยู่อาศัยจะรู้สึกอึดอัดเหมือนอยู่ในที่คุมขังการสร้างรั้วสูงส่วนใหญ่จะเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่มากๆแล้วตัวบ้านไม่ได้อยู่ชิดรั้วมากจนเกินไป ความรู้สึกอึดอัดก็จะลดน้อยลงถ้าสร้างรั้วต่ำก็ล่อแหลมต่อการถูกโจรขโมยขึ้นบ้าน เพราะฉะนั้นจึงควรกำหนดความสูงของรั้วให้อยู่ในระดับที่พอดี

รั้วบ้านห้ามทำเป็นลูกกรงซีกหรือเหล็กแหลม

  •  ลักษณะของรั้วลูกกรงที่มีเหล็กแหลมอยู่ด้านบน คนที่อยู่ในบ้านก็ไม่ต่างไปจากสัตว์ที่ถูกขังอยู่ในกรง หรือกรณีที่เอาเศษแก้วไปเสียบเอาไว้บนขอบรั้วกำแพงเพื่อป้องกันขโมยปีนเข้าบ้านก็จะเข้าข่ายเดียวกัน ในทางฮวงจุ้ยถือว่าไม่เป็นมงคลอย่างยิ่งถ้าจะใช้รั้วแบบนี้ควรจะมีการแต่งลวดลายโค้งวงกลมเสริมเข้าไปยอดบนที่มี ลักษณะลูกศรที่แหลมคมก็ใช้วงกลม ใส่แทนเข้าไปเพื่อลดความรู้สึกก้าวร้าวของความแหลมคมลง

การปลูกต้นไม้ทำเป็นรั้ว

  • ลักษณะรั้วแบบนี้มีให้เห็นไม่บ่อยนักเพราะคนไม่ค่อยนิยมทำกัน เนื่องจากมองว่าแข็งแรงสู้รั้วปูนไม่ได้นอกจากนี้ยังดูแลยาก ต้องคอยตัดแต่งต้นไม้อยู่เสมอส่วนใหญ่จะนิยมทำกันตามบ้านที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยดี อย่างหมู่บ้านใหญ่ๆ เพราะไม่ต้องห่วงในเรื่องของโจรขโมยขึ้นบ้านในทางฮวงจุ้ยถือว่ารั้วแบบนี้เป็นรั้วธรรมชาติจริงๆย่อมส่งผลดีต่อบ้านนั้นมากกว่าเสีย

รั้วที่ชำรุดหรือแตกร้าวเป็นลางร้าย

  • ในทางฮวงจุ้ยจะให้ระวังสิ่งที่เสื่อมสภาพหรือชำรุดเพราะถือเป็นลางร้ายที่บ่งบอกว่าบ้านหลังนั้นจะประสบกับปัญหา เจ้าของบ้านจะพบกับความล้มเหลวได้รั้วบ้านที่แตกร้าวผุผังแทนความหมายของความมั่นคงที่ถูกทำลายลงเพราะสิ่งที่ป้องกันภัยจากนอกบ้านกำลังเสื่อมสภาพลงเพราะฉะนั้น จึงควรหมั่นดูแลรักษาสภาพของรั้วให้แข็งแรงและดูใหม่อยู่เสมอ

วัสดุในการสร้างรั้วเป็นไม้ดีที่สุด

  • การสร้างรั้วบ้านโดยใช้วัสดุที่เป็นไม้จะให้ความรู้สึกที่ดีและเหมาะกับบ้านอยู่อาศัยมากที่สุด เพราะไม้เป็นวัสดุจากธรรมชาติโดยตรง คนในบ้านจะรู้สึกใกล้ธรรมชาติมากกว่ารั้วที่เป็นปูนหรือเหล็กแต่ในปัจจุบัน รั้วบ้านส่วนใหญ่จะใช้วัสดุที่เป็นปูนผสมเหล็กเพราะแข็งแรงกว่าและประหยัดกว่าการใช้ไม้ที่มีราคาค่อนข้างแพง